เคล็ดลับการบริหารเวลาที่ทำให้ได้งานตามเป้าหมาย
เคล็ดลับการบริหารเวลาที่ทำให้ได้งานตามเป้าหมาย
“TIME” ใช่ค่ะ ภาษาอังกฤษคำนี้แปลว่า “เวลา”
ที่ทุกคนมีเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่ทำไมบางคนสำเร็จและบางคนไม่สำเร็จในเป้าหมายหรือการทำงานในแต่ละวัน มันเกิดอะไรขึ้นหรือ ? ในคำว่าเวลามีความสอดคล้องกับสิ่งเล็ก ๆ คือ วินาที (Second) นาที (Minute) ชั่วโมง (Hour) วัน (Day) เดือน(Mouth) ปี (Year) ในทุก ๆ วันคุณจะมีเวลาเป็นของคุณ 86,400 วินาทีใน 1 วันคุณจะมีธนาคารเวลาของคุณ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาเหมือนคุณเริ่มเบิกถอนเวลาของคุณ และจะเริ่มฝากเวลาใหม่ในทุกวัน เห็นไหมคะ?
คุณจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญของเวลาอยากมากถ้าอยากสำเร็จ เพราะดอกเบี้ยของเวลาคือ สิ่งที่คุณใช้เวลาให้มีคุณค่าในการใช้ชีวิตและการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
“เวลานั้นเป็นดังลม หากนำมาใช้อย่างถูกต้อง
มันจะพัดพาเราไปสู่จุดหมายทุกครั้ง” (โลทาร์ โซแวร์ท)
ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณยังใช้เวลาแบบไม่รู้คุณค่าของเวลา แล้วคุณจะประสบผลสำเร็จได้อย่างไร ความสำเร็จ คือการที่เราได้มุ่งมั่น ลงมือทำในสิ่งที่เราวางเป้าหมายอย่างชัดเจน เรามักสูญเสียเวลาไปกับสิ่งที่อาจไม่สำคัญ นั้นคือเราขาดการวางแผนที่ชัดเจน ถ้าอยากสำเร็จลองมาดูกันค่ะว่า ต้องปรับตัวอย่างไร?
สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกคือ....
- กำหนดเป้าหมายที่เราต้องการอย่างชัดเจน เป้าหมายคือสิ่งที่เราอยากทำ และมีความจำเป็นในชีวิตของเรา เช่น คุณอยากทำงานในแต่ละวันให้สำเร็จ เพื่อผลงาน หรือคุณอยากเรียนต่อให้จบภายใน 2 ปีในขณะที่คุณทำงานด้วย คุณอยากมีบ้าน 1 หลัง แต่ใด ๆ ที่เป็นสิ่งที่คุณวางเป้าหมายคุณต้องเขียนมันออกมาให้เป็นภาพหรือวาดรูปก็ได้ และใช้หลัก SMART
S = Specific ต้องเฉพาะเจาะจง เช่น ต้องเรียนต่อระดับ ป.โท สาขาบริหาร ให้สำเร็จ
M = Measurable สามารถวัดผลได้ ใช้เวลาเรียน 2 ปี ซึ่งคุณต้องมี Action ต่อในการเก็บเงินเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย
A = Achievable บรรลุผลได้จริง คือถ้าคุณเรียนต่อแปลว่าคุณมีเงินเก็บที่จะมาเป็นค่าใช้จ่าย เรียบร้อยแล้ว และโอกาสในการลาหัวหน้างานที่ทำงานซึ่งให้คุณทำตามเป้าหมายได้
R = Realistic เป้าหมายต้องสอดคล้องกับความจริงได้ มีเหตุผล เมื่อคุณมีเงินเก็บที่สามารถใช้จ่ายเพียงพอ สามารถลาบริษัทเพื่อพัฒนาตนเองได้ หาสถานที่ศึกษาได้เหมาะสมกับเวลาที่คุณมีในการบริหารจัดการทั้งการทำงานและศึกษาต่อ
T = Timely กำหนดเวลาที่ชัดเจน สามารถบอกได้ว่าคุณจะสำเร็จได้ตามที่วางเป้าหมายคือ 2 ปีนับจากไหน และต้องลงมือทำทันที การตั้งเป้าหมายด้วยหลัก SMART ในการทำงานแต่ละวันก็สามารถทำได้เพื่อคุณจะได้มีผลงานออกมาในแต่ละวันชัดเจน และโอกาสก้าวหน้าย่อมเกิดขึ้น
- การวางแผน ลองเขียนตารางเวลาในแต่ละวัน เช่น เริ่มงาน 9.00 น.เช้า คุณลงรายละเอียดของงานที่คุณต้องทำเป็นรายชั่วโมงก็ได้ เป็นแนวตั้ง ตามเวลาเริ่ม 9.00 น. ถึง 17.00 น.เวลาเลิกงาน และเขียนกิจกรรมที่คุณต้องทำ และเมื่อสิ้นวันคุณลองประเมินงานสำเร็จตามเป้าหมายหรือไม่ วิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่กำหนดใช่หรือไม่ และถ้าไม่เป็น อย่าเพิ่งกังวล ลองมาพิจารณาดูว่า มีใครขโมยเวลาคุณไปบ้าง และอาจต้องทำในตารางเวลา ว่างานหรือกิจกรรมไหน สำคัญ จำเป็น เร่งด่วน ไม่สำคัญ ไม่เร่งด่วน ให้ทำเครื่องหมายไว้ เพื่อเราจะตัดสินใจทำสิ่งใดก่อน-หลังด้วยเหตุและผล
- การตื่นแต่เช้า เพราะการตื่นเช้าทำให้คุณมีเวลามากขึ้น และจะทำให้คุณสดชื่น มีพลังในการใช้ชีวิต และลองอยู่กับตัวเองด้วยเพลงบรรเลงสัก 1 เพลงฟังสบาย ๆ จิตใจจะมีความสุข และยิ้มให้ตัวเองเสมอ เป็นการเพิ่มพลังบวกได้ลองฝึกดูนะคะทำทุกวันสม่ำเสมอ
- การให้ความสำคัญของงาน เรื่องนี้จำเป็น ถ้าคุณได้ฝึกฝนว่า งานใดต้องทำก่อน หรืองานใดสามารถคอยได้ คนหนึ่งคนไม่สามารถทำอะไรได้ภายในเวลาเดียวกัน นั้นคือคุณต้องเข้าใจการจัดลำดับความสำคัญของงาน
เวลาเป็นสิ่งมีค่า ถ้าคุณใช้เวลาในธนาคารเวลาของคุณไม่คุ้มในทุกวินาที คุณก็ไม่สามารถย้อนกลับได้ บ่อยครั้งที่เราจะทำในสิ่งที่ไม่สำคัญก่อน และสิ่งที่สำคัญกับทำทีหลัง เลยเป็นสาเหตุทำให้เรามีผลงานที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ บางทีเราก็ปล่อยให้ผู้อื่นมาขโมยเวลาของเราไปโดยที่เราไม่รู้ตัว หรือเราก็ไม่จัดการอะไรเลย เช่น การที่ต้องเจรจาต่อรองในการช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง เพื่องานของเราได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่คุณกับปล่อยให้เขาขโมยสิ่งมีค่าของคุณไป